หนุ่ม สันติสุข เปิดใจเหตุตัดสินใจขายบ้านที่อยู่มา 33 ปี เผยเส้นทางรักกับภรรยากว่า 25 ปี

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักดารานักแสดงชายหน้าหล่อชื่อดังระดับตำนานอย่าง หนุ่ม สันติสุข แน่นอน เป็นดาราอีกคนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกันกับหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ เนื่องจากงานในวงการบันเทิงได้ลดลง และเมื่อไม่นานมากนี้ หนุ่ม สันติสุข เปิดใจเหตุตัดสินใจขายบ้านที่อยู่มา 33 ปี เผยเส้นทางรักกับภรรยากว่า 25 ปี ผ่านทางรายการคุยแซ่บ SHOW ที่มี หนิง ปณิตา และ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรมาตาม darasiam.com มาดูกันเลยค่ะ

หนุ่ม สันติสุข เปิดใจเหตุตัดสินใจขายบ้านที่อยู่มา 33 ปี เผยเส้นทางรักกับภรรยากว่า 25 ปี

หนุ่ม สันติสุข

ล่าสุดประกาศขายบ้านที่อยู่มานาน 33 ปี

หนุ่ม สันติสุข : “ใช่ คือบ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังแรกที่ซื้อจากน้ำพักน้ำแรกตั้งแต่เข้าวงการ คือผมเข้าวงการมาตั้งแต่ปี 2529 แล้วบ้านหลังนี้ซื้อตอนปี 2531 ทุกวันนี้ก็มีอายุ 33 ปี ก็มีความผูกพันเพราะคุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ที่นี่จนท่านเสียไป ส่วนสาเหตุที่ต้องขายก็คือ ลูกโตขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น เริ่มเดินชนกันในบ้าน ก็เลยไปสร้างบ้านใหม่ ใกล้ๆ แล้วบ้านใหม่ก็เสร็จพอดี ตอนแรกตั้งใจว่าจะเก็บไว้ให้เป็นมรดกลูกๆ แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโควิดมันทำให้เราทำงานไม่ได้ รายได้ก็ไม่เข้ามา ก็เลยไม่สามารถเก็บไว้ได้”

ลูกๆ ทราบไหมว่าขายบ้านเพราะพิษโควิด

หนุ่ม สันติสุข : “ก็คงจะรู้เหมือนกัน เพราะช่วงหลังเราอยู่บ้านนาน แต่เขาเข้าใจ ว่าเราจำเป็นต้องตัดใจกับบางสิ่งบางอย่าง บางทีมันเกินความจำเป็นที่มีอยู่”

คนเม้าท์ขายบ้านเพราะพิษโควิด

หนุ่ม สันติสุข : “จริงๆ จะพูดอย่างนั้นก็ได้ เพราะตอนนี้ไม่ได้ทำงาน ไม่ได้ถ่ายละคร ยังมีคาอยู่ 2 เรื่อง คาซังอยู่เรื่องหนึ่ง แล้วรอเปิดอีก 3 เรื่องทำอะไรไม่ได้เลย แล้วมีรายการที่เปิดกับน้องเป๊กกี้ ก็หมดวาระไป ทุกวันนี้ไม่มีรายได้ ก็ใช้เงินเก็บอย่างเดียว”

แฟนๆ กังวลว่าจะอำลาวงการ แล้วไปทำไร่ที่เชียงราย

หนุ่ม สันติสุข : “ก็มีข่าวออกมาว่าหนีพิษโควิดจะไปอยู่เชียงราย จริงๆ แล้วบ้านที่เชียงราย ผมซื้อและสร้างไว้ 20 กว่าปีแล้ว เพราะว่าตอนนั้นไปถ่ายละคร แล้วเห็นว่าสวยดีก็เลยซื้อไว้ แล้วก็มีการต่อเติมจนมีไร่มีนา เราก็ทำตามเศรษฐกิจพอเพียง มีพื้นที่ 20 ไร่ ก็มีปลูกข้าวสามไร่ ปลูกไม้ใหญ่ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ถามว่าเรามีการนำพื้นสร้างรายได้ไหม ก็ให้คนที่เฝ้าอยู่เขามีรายได้ คือเราก็ให้ที่เขาไปทำกิน เขาก็เฝ้าที่ให้เรา พอช่วงปีใหม่ อากาศดีๆ หนาว ๆ เราก็พาลูกไปตกปลาบ้าง ไปดำนาบ้างจะได้รู้ว่าเขาปลูกข้าวกันอย่างไร ลูกก็ชอบ ปีหนึ่งก็ไป 2-3 ครั้ง ถามว่าจะมีโอกาสไปอยู่ถาวรไหม เราก็มีวางโครงการไว้ ว่าวันหนึ่งถ้าลูกเต้าเราสบายแล้วเราก็อาจจะไปอยู่นานหน่อย แต่ถ้าให้ไปอยู่เลยเราคงไปอยู่ไม่ได้”

เครียดไหมคนเคยทำงานตลอดเวลา แล้วตอนนี้ออกจากบ้านไม่ได้

หนุ่ม สันติสุข : “เครียดเหมือนกันเพราะว่าเวลามันผ่านไป อายุเราก็มากขึ้น เปรียบเสมือนเรากำลังวิ่งไปข้างหน้าแล้วเชือกรองเท้าหลุด เราก็ต้องหยุดเพื่อผูกเชือกรองเท้า เสียเวลาไป 2 ปี โดยที่เราทำอะไรไม่ได้ อย่างเด็กที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็ไม่ได้ใช้ชีวิต เฟรชชี่ ไม่ได้รับน้องอะไรเลย ต้องเรียนออนไลน์ ชีวิตช่วงนั้นก็หายไปเลย”

เห็นว่าบ้านใหม่อยู่ใกล้บ้านหลังเก่า

หนุ่ม สันติสุข : “ก็เลยไป 2-3 ซอย จากบ้านเดิม สร้างมาตั้งแต่ปี 2559 ก็ใช้เวลาสร้าง 4 ปี เพราะสร้างมาปีแรกผู้รับเหมาหนี ก็เลยต้องหยุดไป 1 ปี กว่าจะมีคนมาทำบ้านต่อก็ติดโควิดอีกก็เลย 4 ปี บ้านหลังใหม่ก็หมดไปหลายสิบล้านเหมือนกัน เพราะทำบ้านถมเงินเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม ถมหายๆ แต่บ้านก็เป็นสิ่งที่เราสร้างให้กับครอบครัว ให้ลูกด้วย ลูกก็จะมีพื้นที่ของตัวเอง มีห้องของตัวเอง เพราะตอนนี้ลูกๆ เริ่มเป็นหนุ่มแล้ว”

เห็นว่าภรรยาอายุห่างกัน 10 ปี เจอกันได้อย่างไร

หนุ่ม สันติสุข : “เจอกันที่กองถ่าย ตอนนั้นเขามาเป็นเอ็กซ์ตร้า ตอนนั้นเขายังเรียนหนังสืออยู่ เรียนอยู่ปี 4 เป็นพระเอกนางเอกเราอย่าไปยุ่งกับเขาเลย เอ็กซ์ตร้าดีกว่า ก็เหมือนตลก เขาไม่จีบนักร้อง เขาจีบเด็กเสิร์ฟ อันนี้พูดเล่นๆ แต่จริงๆ ก็คือ ตอนนั้นที่เรามาเจอภรรยา เราโสดอยู่ โสดมาหลายปีแล้ว

ครั้งแรกที่เจอภรรยารู้สึกอย่างไร

หนุ่ม สันติสุข : “ก็ธรรมดาทั่วไป เพราะตอนนั้นก็เป็นพ่อพวกมาลัยนิดหนึ่ง เพราะว่าโสดและเล่นหนัง เล่นละคร และเรายังเป็นพระเอกอยู่ ซึ่งสมัยก่อนโซเชียลมันยังไม่รุนแรง นักข่าวสมัยก่อนจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวของนักแสดง”

เห็นว่าจีบภรรยากลางกองละคร

หนุ่ม สันติสุข : “สมัยก่อนการที่นักข่าวจะเข้าไปในกองถ่ายมันเป็นเรื่องยากมาก ถ้าทางกองไม่อนุญาติเขาก็เข้าไม่ได้ เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว นักแสดงอาจจะนอนอ่านบทอยู่กับพื้น อาจจะกินข้าวโดยใช้ชามพาสติก ซึ่งภาพมันอาจจะไม่น่ามอง แล้วเราก็ไม่คิดอะไรเพราะเราโสดอยู่ การที่เราจะจีบใครมันก็ไม่ผิดอะไร”

ทำไมเลือกคนนี้เป็นแม่ของลูก

หนุ่ม สันติสุข : “หลังจากที่คบกันได้ 6 ปี ก็ไปมาหาสู่ เราก็ทำตามกระบวนการทุกอย่างเราก็เห็นว่าเขาเป็นคนที่จับต้องได้ เขาเหมาะที่จะเป็นแม่ของลูก เขาไม่เหลาะแหละ จริงใจ พูดตรง และมีมุมมอง ในการใช้ชีวิตตรงกัน”

ตอนจะแต่งเพื่อนๆ งงกันหมด

หนุ่ม สันติสุข : “ก็คือคนเราก็มีจุดลิมิตของตัวเอง พอเราใช้ชีวิตโสดเต็มที่ พอถึงจุดหนึ่ง เราจะรู้สึกพอแล้ว เพราะเราก็ผ่านอะไรมาเยอะ เราควรจะมีครอบครัวได้แล้ว แล้วเราก็มาเจอคน ที่ใช่เราก็ควรจะหยุด คือผู้ชายเจ้าชู้ได้ อะไร แต่พอแต่งงานแล้วต้องหยุด ต้องให้เกียรติผู้หญิง ไม่ใช่แต่งงานแล้วค่อยๆ ซา

ลูกมีอยู่แล้ว 3 คนทำไมจะมีเพิ่มอีก

หนุ่ม สันติสุข : “ก็มีอยู่แล้ว 3 คน คนโตน้องโฟกัสตอนนี้อายุ 18 ปีเขาก็จะเป็นคนนิ่งๆ และมีโลกส่วนตัวเหมือนเรา เขาเป็นคนเรียนเก่ง เขาได้ทุนที่โรงเรียน ส่วนคนที่สองและสามเป็นฝาแฝด น้องฟอสกับน้องเฟมตอนนี้อายุ 14 แล้ว ก็เป็นแฝดธรรมชาติ แม้จะเป็นแฝดแต่เขาไม่เหมือนกัน นิสัยก็ไม่เหมือนกัน ฟอสจะเอาตัวรอดหน่อย จะเจ้าเล่ห์นิดๆ ส่วนเฟมจะเป็นคนชอบช่วยเหลือ เวลาให้ช่วยอะไรเขาจะอยู่เป็นคนสุดท้าย”

หนุ่ม สันติสุข

และนี้ก็เป็นเรื่องราวของหนุ่ม สันติสุข เปิดใจเหตุตัดสินใจขายบ้านที่อยู่มา 33 ปี เผยเส้นทางรักกับภรรยากว่า 25 ปี ยังไงก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้คุณหนุ่ม สันติสุข ให้ผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรสัโควิด-19 ครั้งนี้ไปให้ได้นะคะ และขอให้มีผลงานการแสดงให้แฟนคลับได้ติดตามอีก ถึงอย่างไรเราก็จะขอซัพพอร์ตคุณหนุ่มแบบนี้ไปตลอดไปเลยนะคะ

พาทำความรู้จักพิพิธภัณฑ์ศิลปะแดนกิมจิ ทั่วเมืองเกาหลีใต้

สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเกาหลีใต้นั้นมีอยู่มากมายหลากหลายให้เราได้เดินทางไปสัมผัส ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปะของของเกาหลีก็มีอยู่มากเช่นกัน บรรดาพิพิธภัณฑ์ที่มีในเกาหลีนั้นแต่ละที่ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้ที่ประเทศอื่น ๆ เลยค่ะจึงจะพาทัวร์ พาทำความรู้จักพิพิธภัณฑ์ศิลปะแดนกิมจิ ทั่วเมืองเกาหลีใต้ แต่ละแห่งก็จะแปลกหรือมีประวัติความเป็นมาน่าสนใจมากมายให้ไปเยี่ยมชม หากได้เดินทางไปเที่ยวในโซลต้องบอกว่าไม่ควรพลาดจริง ๆ ค่ะ ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
พาทำความรู้จักพิพิธภัณฑ์ศิลปะแดนกิมจิ ทั่วเมืองเกาหลีใต้